Ducky Shine 4 69 Fire Limited Edition
6,290.00 ฿
Ducky Shine 4 69 Fire Limited Edition ออกแบบมาให้เป็นคีย์บอร์ดแบบ Limited Edition รุ่นล่าสุดจาก Ducky ที่มาพร้อมความพิเศษ หลายๆอย่างที่เดี๋ยวเราจะมาไล่เลี่ยกันไปทีล่ะลำดับ
เราเริ่มกันที่เรื่องของหน้าตา และตัวบอดี้ของ Ducky Shine 4 69 Fire Limited Edition อย่างที่ทราบกันว่า มันอยู่ในซีรีส์ Shine 4 ดังนั้นเรื่องหน้าตาจึงใกล้เคียงกันกับ Shine 4 ทว่าจุดที่แตกต่างอยู่ที่ คีย์แค้ปสเปสบาร์ ที่เป็นรูปเปลวไฟ พร้อมสัญลักษณ์ 69 ตามชื่อรุ่น
ส่วนชื่อรุ่น ตัวเลข 69 นั่นก็มาจากสวิตส์ และไฟ LED นั่นคือ 6 ตัวแรกหมายถึง คีย์บอร์ดตัวนี้มีไฟทั้งหมด 6สี โดยหลอด LED ที่ Ducky Shine 4 69 Fire Limited Edition ใช้นั้นเป็นหลอดที่มีสองสีในหลอดเดียว สามารถผสมสีด้วยกันได้ โซนนึงจะเป็นสี Red&Green ซึ่งเมื่อผสมสี ก็จะได้เป็นสีส้ม ส่วนอีกโซนนึงใช้หลอดสี Yellow&Blue เมื่อผสมสีกันจะให้แสงสีม่วง รวมกันเป็น 6สีนั่นเอง
สำหรับที่มาของเลข 9 ตัวต่อมา ก็คือปัจจัยของสัมผัสที่แตกต่าง โดย Ducky Shine 4 69 Fire Limited Edition นี้มีการรวมCherry MX switch สีต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันในคีย์บอร์ดตัวเดียว ซึ่งมีสวิตส์ทั้งหมด 9 สี ได้แก่สีอะไร และให้ฟิลลิ่งอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันต่อ
– Cherry Green sw เป็นสวิตส์แบบสองจังหวะ มีเสียงดังเวลากด แข็ง ระดับ 80cN กดมันส์ ถูกจัดมาเป็นสวิตส์หลักในคีย์บอร์ดตัวนี้
– Cherry Blue sw สวิตส์สองจังหวะ มีเสียงดังเวลากด น้ำหนักน้อยกว่าตัวก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 50cN
– Cherry MX Milk White sw สวิตส์สีแปลก ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นนัก มีเสียงดังขณะกด เป็นสองจังหวะ ต้องออกแรงระดับ 80cN แต่เสียงเบากว่า Green นิดหน่อย
– Cherry MX Brown sw เป็นสวิตส์สองจังหวะเช่นกัน ทว่าเสียงเงียบขณะกด ออกแรงกดเพียง 45cN
– Cherry MX White sw คือสวิตส์ที่ใช้แรงกดมากขึ้นกว่าก่อนหน้า ที่ระดับ 65cN สองจังหวะ และเสียงเงียบเช่นเดียวกัน
– Cherry MX Tactile Grey sw เป็นอีกสวิตส์ ที่มีเสียงรบกวนน้อย ตามแบบฉบับ Tactile ทว่าใช้แรงกดเยอะระดับ 80cN
– Cherry MX Red sw สวิตส์ยอดนิยมอีกตัว ที่มีเสียบเงียบขณะกด และน้ำหนักในการกดน้อยเพียง 45cN และเป็นสวิตส์จังหวะเดียว
– Cherry MX Black sw เช่นเดียวกับ Red แต่ Black ต้องออกแรงกดเยอะกว่า ที่ระดับ 60cN โดยที่เสียงเงียบ และเป็นสวิตส์จังหวะเดียวเช่นกัน
– Cherry MX Linear Grey sw เป็นสวิตส์ตัวสุดท้ายที่อยู่ในคีย์บอร์ดตัวนี้ กายภาพของมันคือสวิตส์แบบจังหวะเดียว เสียงรบกวนต่ำ แต่ออกแรงกดเยอะระดับ 80cN
จากที่ได้ไล่เลียเรื่องสวิตส์แต่ล่ะสี เราจะเห็นได้ว่า Ducky Shine 4 69 Fire Limited Edition มีการจัดวางสวิตส์มาทั้งหมด 3แบบด้วยกันคือ Clicky, Tactile และ Linear เรียกว่าครบถ้วนกระบวนความ ไม่มีคีย์บอร์ดตัวใด ณ ปัจจุบัน ที่ใส่สวิตส์ที่แตกต่างกันมากถึงขั้นนี้ โดยสวิตส์แต่ล่ะตัว ก็จะมีสัมผัส และฟิลลิ่งที่แตกต่างกันออกไป โดย Ducky Shine 4 69Fire Limited Edition ได้เน้นหนักไปทาง Cherry MX Green sw ซึ่งหลายๆสำนักบอกว่าเป็นสวิตส์ที่กดมันที่สุดในขณะนี้
นี่คือความพิเศษ ที่เป็นสัมผัสที่แตกต่างของ Ducky Shine 4 69 Fire Limited Edition ตัวนี้ ซึ่งในเรื่องของโหมดไฟที่หลากหลายนั้น ก็มีลูกเล่นทุกอย่างเช่นเดียวกันกับ Shine4 โดยสามารถควบคุมได้จากตัวคีย์บอร์ดโดยตรง ไม่จำเป็นต้องลงซอฟแวร์เพื่อปรับแต่งแต่อย่างใด และจะมาพร้อมโหมดไฟที่หลากหลาย ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
- 100% LED illuminated โหมดเปิดไฟ Backlight สว่างทุกจุด สามารถปรับเพิ่ม-ลดความสว่างได้
- Breathing Mode โหมดไฟกระพริบ แบบจังหวะการหายใจ เพิ่ม-ลดความสว่างได้ตามต้องการ
- Wave Marquee Mode โหมดนี้ไฟจะกระพริบเป็นระลอกคลื่น
- Snake Marquee Mode โหมดไฟวิ่งเป็นงูเลื้อย ปรับสปีดการเลื้อยได้
- Reactive Mode (Fade Effect) โหมดนี้ ไฟจะสว่างขึ้นตามปุ่มที่เรากด และค่อยๆดับหลังจากปล่อย
- Reactive Mode Advanced โหมดเพิ่มความหลากหลายในการเปลี่ยนสี เวลากด
- Ripple Mode โหมดต่อมา ไฟจะกระพริบตามจังหวะที่เรากด กระจายเป็นวงระลอกคลื่น เหมือนโยนหินลงน้ำ
- Aurora Mode เมื่อกดจะมีลำแสงกระจายออกไปเป็นทาง
- Raindrop Mode แสงสีในโหมดนี้ จะคล้ายฝนที่ตกกระทบพื้นน้ำ
Out of stock